มรดกโลกอินเดีย - ป้อมอักรา (Agra Fort)

เมืองอักรา (Agra) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงสำคัญของอินเดียในยุคศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำยมุนา นับเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่สุดเป็นอันดับสามของรัฐอุตรประเทศ เมืองอักรา มีชื่อเสียงโด่งดัง จากสถาปัตยกรรมที่เป็นอนุสรณ์แห่งความรักอันยิ่งใหญ่ "ทัชมาฮาล" ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากนั้นเมืองอักรายังเป็นที่ตั้งของ ป้อมอักรา (Agra Fort) ซึ่งบางครั้งก็เรียกว่า ลาล กิลา (Lal Qila) ป้อมแดง (Fort Rouge) หรือ ป้อมแดงแห่งอักรา (Red Fort of Agra) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1983 และเป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกหลายๆ แห่งของอินเดีย ที่เราขอนำมาเสนอเป็นแห่งแรก



ป้อมอักรา (Agra Fort) สร้างขึ้นในยุคจักรวรรดิโมกุล โดยจักรพรรดิอักบาร์ (Akbar) ในระหว่างปี ค.ศ. 1565-1574 ตั้งอยู่บริเวณหัวโค้งของแม่น้ำยมุนา มีความยาวตามริมฝั่งแม่น้ำถึง 2.5 กิโลเมตร ประกอบด้วยกำแพงที่สร้างด้วยหินทรายสีแดง ประตูทางเข้าที่ตกแต่งประดับประดาด้วยกระเบื้องหลากสีสัน พร้อมด้วยอาคารมากถึง 500 หลังอยู่ภายใน อาคารส่วนใหญ่สร้างเพิ่มเติมขึ้นในสมัยหลัง โดยใช้หินอ่อนเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง ในยุคเมื่อแรกสร้างสมัยพระเจ้าอักบาร์นั้น ป้อมแห่งนี้อยู่ชิดติดแม่น้ำ จึงมีบันไดทางลงท่าน้ำจำนวนมากในยุคนั้น บางแห่งก็ใช้เป็นที่ถ่ายเทสินค้าที่ขนส่งทางน้ำ บางแห่งก็ใช้เป็นท่าสำหรับสนมนางในผ่านโดยมีหลังคาคลุมอย่างมิดชิด

ทั้งหอคอย ป้อมปราการ เชิงเทิน และประตูอันใหญ่โตสง่างามของป้อมอักราเป็นรูปแบบเฉพาะของศิลปะในราชวงศ์โมกุล และเป็นสัญลักษณ์ถึงความสำเร็จและพระราชอำนาจของจักรพรรดิอักบาร์แห่งราชวงศ์โมกุล ซึ่งได้สะท้อนถึงความมานะพยายามของพระองค์ที่จะรวมธรรมเนียมประเพณีของสองศาสนาคือ อิสลาม และฮินดูเข้าด้วยกัน เห็นได้ชัดเจนทั้งในทางสถาปัตยกรรมและการเมือง ป้อมแห่งนี้แม้จะเริ่มสร้างสมัยพระเจ้าอักบาร์ แต่ก็สำเร็จเสร็จสิ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ จาฮัน (Shah Jahan) ซึ่งเป็นหลานของพระองค์ และเป็นผู้สร้างทัชมาฮาลอันเลื่องลือ

บริเวณป้อมแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่งดงามมาก ที่พระเจ้าชาร์ จาฮัน ใช้เฝ้าชมผลงานชิ้นเอกของพระองค์ ภายหลังจากที่ทรงถูกพระโอรสของพระองค์เอง ออรังเซบ (Aurangzeb) กักขังไว้ในป้อมอักราแห่งนี้ และสิ้นพระชนม์ลงที่นี่ในปี 1657 ส่วนหนึ่งของป้อมอักราในปัจจุบันยังคงใช้โดยกองทัพอินเดียและเป็นพื้นที่ปิด แต่ก็ยังมีพื้นที่จำนวนมากพอที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้

โดยมากพวกเราจะไปเยี่ยมเยือนเมืองอักราเพื่อชมทัชมาฮาลเป็นหลัก แต่ถ้ามีเวลาก็ขอเชิญชวนมาเยี่ยมชมป้อมอักรา ซึ่งห่างจากทัชมาฮาลไม่เกิน 2 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำเดียวกัน ซึ่งก็สร้างความประทับใจได้เช่นกัน และอย่าลืมนะใช้พาสปอร์ตแสดงตัวว่ามาจากประเทศไทย ซึ่งเป็นภาคีในกลุ่ม BIMSTEC ก็จะได้เสียค่าตั๋วเข้าชมแหล่งมรดกโลกในราคาเพียง 10 รูปีเท่านั้น (อ่านรายละเอียดได้ที่  ข่าวดี! สำหรับคนไทยที่จะมาเที่ยวอินเดียสามารถซื้อบัตรเข้าชมโบราณสถานต่างๆ ได้ในราคาคนท้องถิ่น)

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก




No comments:

Post a Comment