อินเดียส่ออ่วม สถาบันจัดอันดับเตือน เสี่ยงถูกปรับลดเครดิตเหลือแค่"ระดับขยะ"


โดย มติชนออนไลน์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ว่า สถาบันจัดอันดับด้านเครดิต"สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์"(เอสแอนด์พี)เปิดเผยว่า อินเดียกำลังเสี่ยงที่จะถูกปรับอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจเหลือแค่ระดับ"ขยะ"จากกรณีรัฐบาลอินเดียต้องเผชิญกับคดีทุจริตอื้อฉาวมากมาย และความล้มเหลวที่จะผลักดันแผนปฎิรูปเศรษฐกิจของประเทศ

โดยเอสแอนด์พี ระบุว่า อินเดียมีโอกาสอย่างน้อย 1 ใน 3 ที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเขื่อถือทางเศรษฐกิจและด้านการลงทุนลงมาอยู่ในระดับ"ขยะ"จากระดับเครดิตปัจจุบันซึ่งอยู่ที่"BBB-" ในช่วงอีก 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากอินเดียมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการที่เศรษฐกิจจะลดการเติบโตลง เนื่องจากแผนปฎิรูปเศรษฐกิจที่ชะงักในสภา และทำให้เครดิตของอินเดียในปัจจุบัน เสี่ยงที่จะดิ่งตกลง

รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ เอสแอนด์พี ได้เคยปรับเครดิตความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจและการลงทุนของอินเดียที่ระดับ"BBB-"หรือจากระดับ"มั่นคงมีเสถียรภาพ"เป็น"มุมมองด้านลบ"เนื่องจากวิกฤตรัฐสภาอินเดียซึ่งต้องเลื่อนสมัยประชุมต่อเนื่องท่ามกลางกระแสโจมตีจากฝ่ายค้านต่อกรณีคอรัปชั่นทุจริตในหลายเรื่องของรัฐบาลพรรคคองเกรส รวมทั้งกรณีอื้อฉาวล่าสุด ซึ่งส่งผลให้รัฐมนตรีอินเดีย 2 รายต้องลาออกจากคดีคอรัปชั่น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา


นอกจากนี้ เอสแอนดืพี ระบุด้วยว่า อาจจะลดเครดิตความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของอินเดียซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของเอเชีย หากเศรษฐกิจอินเดียไม่สามารถขยายตัวในระดับ 7-8 เปอร์เซนต์ ภายใน 10 ปีนี้ด้วย

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินเดียได้เปิดการค้าเสรีด้านการค้าปลีกและภาคการบินพลเรือน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ และลอยตัวราคาน้ำมันบางส่วน รวมทั้งพยายามผลักดันการเปิดการค้าเสรีด้านธุรกิจประกันภัย และด้านกองทุนเบี้ยบำนาญ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเพิ่มขึ้น รวมทั้งขยายเปอร์เซนต์ให้ต่างชาติสามารถครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในประเทศได้เพิ่มขึ้น เพื่อหวังกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย

อย่างไรก็ตาม ผลการจัดอันดับนี้สร้างความตะลึงให้แก่ทางการอินเดีย รวมทั้งสภาอุตสาหกรรมอินเดีย ซึ่งโจมตี"เอสแอนด์พีว่า จัดอันดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจต่ออินเดียด้วย"มุมมองที่รุนแรงมาก"ทั้งที่รัฐบาลอินเดียกำลังพยายามจะต่อสู้ปัญหาการขาดดุลบัญชีงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ด้วยมาตรการทางการค้าหลายประเภทอยู่ก็ตาม

ที่มา : http://www.matichon.co.th/

No comments:

Post a Comment