วัฒนธรรมสะสมทองคำ ทำลายศก.อินเดีย


โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ความนิยมชมชอบในทองคำของอินเดีย กำลังกลายมาเป็นภัยคุกคามต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ ความนิยมดังกล่าวจะส่งผลให้เป็นการดึงเงินทุนออกจากตลาด ที่กำลังอยู่ในสถานะตึงตัวด้านเงินสดอยู่แล้ว ในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังมองหาทางเพิ่มการเติบโต ท่ามกลางการดิ้นรนอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และเงินเฟ้อพุ่งสูง


นอกจากจะมีบทบาทในฐานะของขวัญสำหรับงานแต่งงาน และเทศกาลต่างๆ แล้ว คุณค่าที่แท้จริงของทอง คำยังทำให้โลหะมีค่าชนิดนี้เป็นเครื่องมือป้องกัน สำหรับเงินเฟ้อ และการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบรรดาคนท้องถิ่น ที่เข้าถึงธนาคารได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

การที่ผลตอบแทนจากการเข้าซื้อทอง คำ พุ่งแซงหน้าการลงทุนประเภทอื่นๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้บรรดาผู้ซื้อทอง ไม่อยากจะไปหาทางเลือกการลงทุนประเภทอื่นๆ ซึ่งความต้องการทอง คำนี้ ทำให้อินเดีย ต้องเจอกับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว

ที่ผ่านมา อินเดีย ประเทศผู้ซื้อทอง คำรายใหญ่สุดของโลก พยายามที่จะควบคุมการนำเข้าทอง คำ เพื่อยับยั้งการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดดังกล่าว ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าทอง คำ 6% เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในความพยายามที่จะจำกัดการซื้อขาย

การที่ทอง คำทั้งหมดซึ่งเป็นที่ต้องการในอินเดีย หามาได้จากการนำเข้า ยังทำให้การซื้อทอง คำจากประเทศนี้ กลายเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่ง ที่ส่งผลต่อราคาทอง คำในตลาดโลกด้วย

ไชยะโมลี เจ้าของร้านอัญมณีแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงนิวเดลี ระบุว่า การขาดทางเลือกที่มั่นคงในการจัดหาทอง คำ และวัฒนธรรมในการซื้อโลหะมีค่าชนิดนี้ หมายความเงินออมทั้งชีวิตของผู้คนจะถูกเก็บเอาไว้เฉยๆ ในตู้ที่บ้าน แทนที่จะมีส่วนช่วยในการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

เจ้าของร้านรายนี้ อธิบายว่า ผู้หญิงในอินเดีย จะมีความรู้สึกมั่นคง ก็ต่อเมื่อพวกเธอมีทอง เก็บไว้กับตัว แต่ทอง เหล่านี้เป็นสินทรัพย์ ที่ไม่ใช้เงินออม หรือเงินลงทุน แถมยังเป็นเหมือนเอาเงินออกไปจากตลาด โดยที่ไม่ได้ใช้ทำอะไรเลย เป็นเงินที่เสียเปล่าไปอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ มีการประเมินว่า เศรษฐกิจอินเดีย ที่ตกอยู่ในช่วงเวลายากลำบากจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นนั้น อาจจะขยายตัวเพียง 5% เท่านั้น ในปีงบประมาณที่ผ่านมา ที่เพิ่งสิ้นสุดลงไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตช้าสุดในรอบทศวรรษ

ราคาทอง คำที่ร่วงลงไปเมื่อเร็วๆ นี้ ยังบั่นทอนความพยายามของทางการในการที่จะจำกัดการซื้อทอง เพราะผู้คนส่วนใหญ่พากันฉวยโอกาสที่ราคาปรับตัวลง เข้าไปหาซื้อทอง คำมาเป็นสินทรัพย์ส่วนตัว
ในระยะยาวนั้น รัฐบาลอินเดีย หวังว่า เงินเฟ้อที่ลดต่ำลง และการนำเสนอทางเลือกที่มากขึ้นสำหรับการลงทุน จะช่วยลดความต้องการทอง คำในประเทศลงมาได้

ขณะที่นักวิเคราะห์โภคภัณฑ์อย่าง ราจีฟ คาปูระ แสดงความเห็นว่า อัตราเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวในระดับสูง พันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับเงินเฟ้อ น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเหล่าผู้นิยมทอง คำ และอาจช่วยดึงเงินกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศด้วย

รัฐบาลอินเดีย ยังตัดสินใจที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มขึ้นในการติดตาม และตรวจสอบการขายทอง คำในประเทศ ในความพยายามที่จะทำรายได้จากตลาดค้าทอง คำมากขึ้น

ที่มา:  http://www.bangkokbiznews.com/

No comments:

Post a Comment