ประเด็นขัดแย้งระหว่าง อารยัน (Aryans) และดราวิเดียน (Dravidians)


ความแตกต่างโดยพื้นฐานที่สุดของสังคมอินเดีย แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ อารยัน (Aryans) และ ดราวิเดียน (Dravidians) โดยที่เป็นชาวอารยับเกือบ 72 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ชาวดราวิเดียนมีแค่ 28 เปอร์เซ็นต์ ชาวอินเดียตอนเหนือนั้นสืบเชื้อสายมาจากอารยัน ขณะที่ชาวอินเดียตอนใต้สืบเชื้อสายจากดราวิเดียน ภาษาพูดในรัฐ 5 แห่งทางตอนใต้ของอินเดียถือว่าเป็นภาษาดราวิเดียน ส่วนภาษาที่ใช้พูดกันมากที่สุดทางตอนเหนือก็ถือว่าเป็นภาษาอารยัน อีกทั้งตัวอักษรโดยทั่วไปในภาษาอารยันจะแตกต่างจากตัวอักษรของชาวดราวิเดียน และชาวอินเดียก็ยังแบ่งแยกตนเองด้วยสำเนียงภาษาของทางเหนือและทางใต้อีกด้วย

ตามตำนานที่เล่าขานกันโดยทั่วไปของอินเดียกล่าวว่า ชาวอารยันเข้าสู่อินเดียทางตอนเหนือ จากที่ใดที่หนึ่งในอิหร่านหรือทางใต้ของรัสเซียในราว 1500 ปีก่อนคริสตกาล ก่อนที่ชาวอารยันจะเข้ามานั้นมีชาวดราวิเดียนอาศัยอยู่ในอินเดียมาก่อน ชาวอารยันไม่สนใจวัฒนธรรมท้องถิ่น พวกเขาเข้ายึดและควบคุมดินแดนทางตอนเหนือของอินเดียไว้ได้ทั้งหมด และในขณะเดียวกันก็ผลักดันให้คนท้องถิ่นถอยร่นลงไปทางใต้ หรือไปยังพื้นที่ป่าและภูเขาทางตอนเหนือ จากข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์นี้ทำให้สังคมพื้นฐานของอินเดียแบ่งแยกออกเป็นสองส่วนดังกล่าว ชาวอินเดียทางตอนเหนือคือ พวกอารยัน และชาวอินเดียทางตอนใต้คือ พวกดราวิเดียน แต่การแบ่งแยกนี้ก็มีความไม่เหมาะสมเนื่องจากเหตุผลหลายๆ ประการ

เนื่องเพราะชาวอินเดียจำนวนมากอพยพจากส่วนหนึ่งของอินเดียไปยังส่วนต่างๆ ไม่ใช่คนท้องถิ่นทั้งหมดจากตอนเหนือถูกผลักดันลงมาทางใต้โดยพวกอารยัน บางส่วนยังคงอยู่และรับใช้ชาวอารยัน และส่วนอื่นๆ ก็เคลื่อนย้ายไปอาศัยในป่า และป่าทึบของทางเหนือ ก่อนที่ชาวอารยันจะเข้ามาก็ยังมีกลุ่มชนอื่น อาศัยอยู่ในอินเดียด้วย เช่น ชิโน-มองโกลอยด์ และออสตราลอยด์ ทั้งยังมีผู้อพยพและผู้บุกรุกชาวต่างชาติอื่นๆ เข้ามาในอินเดียเป็นบางครั้งคราว

มีคนจำนวนมากสงสัยอย่างยิ่งว่ามีชาวอารยันกลุ่มใดบ้างที่เคยบุกรุกเข้ามาในอินเดีย ความสงสัยนี้มาจากพื้นฐานข้อมูลในด้านช่วงเวลาที่ชาวอารยันบุกรุกเข้ามาในอินเดีย และข้อเท็จจริงที่ว่าศาสนาฮินดูและระบบวรรณะเชื่อว่าเป็นผลที่เกิดขึ้นจากการพบกันระหว่างชาวอารยันที่บุกรุกเข้ามาและชาวดราวิเดียนชนท้องถิ่นดั้งเดิมของอินเดีย

ระบบวรรณะเชื่อว่าสร้างขึ้นโดยชาวอารยัน ชนผิวขาวชาวอารยันผู้ที่เข้าครอบครองพื้นที่ส่วนต่างๆ ของอินเดียได้สร้างระบบวรรณะขึ้น ที่ยินยอมให้แต่เพียงพวกตนเท่านั้นที่เป็น พระ (พราหมณ์ – Brahman) ชนชั้นปกครอง (กษัตริย์ – Kshatria) และ พ่อค้า (แพศย์ – Vasia) ในสังคม ต่ำลงมากว่านี้เป็นพวก ศูทร (Sudra) ซึ่งประกอบด้วยสองกลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งเป็นคนท้องถิ่นผู้ที่ถูกพิชิตโดยชาวอารยัน และอีกกลุ่มเป็นผู้ที่สืบเชื้อสายจากอารยันกับคนท้องถิ่นดราวิเดียน

เรื่องราวในศาสนาฮินดูกล่าวถึงสงครามหลายครั้งระหว่างชาวอารยันที่เป็นฝ่ายธรรมะกับมารร้ายผิวดำที่เป็นฝ่ายอธรรม  เทพเจ้าต่างๆ ก็มักจะมีทาสผิวดำเป็นผู้รับใช้ มีเรื่องราวเกี่ยวกับปีศาจสตรีที่พยายามใช้วิธีล่อลวงยั่วยวนบุรุษฝ่ายธรรมะชาวอารยันให้มาหลงใหล ทั้งยังมีการแต่งงานกันระหว่างฮีโรชาวอารยันและปีศาจสตรี หลายๆ คนเชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งเทพเจ้าหรือฮีโร่ผู้มองโลกในแง่ดีนั้นมีพื้นฐานเป็นชาวอารยัน และปีศาจ มารร้าย และทาสผิวดำแท้ที่จริงก็คือชนท้องถิ่นดั้งเดิมของอินเดีย ผู้ที่ชาวอารยันปั้นแต่งให้เป็นอสูรร้าย มารร้าย ปีศาจ และทาส โดยทั่วไปแล้วช่วงเวลาที่ระบุว่าชาวอารยันบุกรุกเข้ามาอยู่ในราว 1500 ปีก่อนคริสตกาล แต่ผู้เชี่ยวชาญในศาสนาฮินดูกล่าวว่า บางเหตุการณ์ในศาสนาฮินดูเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นมาก บางสงคราม เช่น มหาสงครามใน มหากาพย์ภารตะ เชื่อว่าเกิดขึ้นราว 7000 ปีมาแล้ว

ตามคำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญชาวฮินดูท่านนี้ เห็นว่า คำว่า อารยัน (Aryan) เป็นการแปลความหมายที่ผิดจากคำสันสกฤตดั้งเดิมที่มาจากคำว่า อารยะ (Arya) ซึ่งคำนี้หมายถึง บริสุทธิ์ หรือ ดี ในภาษาสันสกฤต และในคัมภีร์พระเวทย์อันศักดิ์สิทธิ์คนดีก็ถูกเรียกว่า อารยะ นักวิชาการชาวยุโรปบางท่านที่ศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมอินเดียในคริสตศตวรรษที่ 19 ก็เป็นชาวเยอรมัน ซึ่งนักวิชาการเยอรมันเหล่านี้เป็นผู้ค้นพบว่า สวัสดิกะ (Swastika) ยังเป็นสัญลักษณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ในหมู่ชาวฮินดูที่ถูกบิดเบือนจากคำว่า อารยะ เป็น อารยัน

แปลจาก “Aryans and Dravidians – A controversial issue”

Picture courtesy:
http://www.stormfront.org/forum/t554833-12/
http://www.stormfront.org/forum/t384889-24/

No comments:

Post a Comment