ศาลสูงสุดอินเดียพิพากษาบังคับใช้กฎหมายยุคอาณานิคม ระบุให้พฤติกรรมรักร่วมเพศเป็นความผิดอาญา
(12 ธ.ค.) สำนักข่าว ต่างประเทศรายงาน ว่า ศาลสูงสุดอินเดียประกาศว่าการมีเซ็กส์ระหว่างเพศเดียวกัน ถือเป็นความผิดทางอาญา โทษสูงสุดถึง 10 ปีทำให้ชาวรักร่วมเพศ ต่างรวมตัวต่อต้านคำพิพากษาดังกล่าว เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
โดยรายงานระบุว่า หลังจากที่คณะผู้พิพากษาสูงสุดของอินเดีย เคยพิพากษาเมื่อปี 2009 ว่า มาตรา 377 ของประมวลกฎหมายอาญาที่ว่าด้วยการห้ามกลุ่มรักร่วมเพศไม่ให้มีเพศสัมพันธ์กันนั้น เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล สร้างความดีใจให้ชาวสีม่วง ซึ่งได้ออกมารณรงค์ให้สังคมภารตะหยุดกีดกันคนรักร่วมเพศ แต่แล้วศาลก็กลับมาประกาศใช้กฎหมายมาตรา 377 อีกครั้ง โดยระบุชัดว่าพฤติกรรมรักร่วมเพศเป็นความผิดทางอาญา ผู้ที่กระทำผิดจะได้รับโทษสูงสุดถึง 10 ปี
ทั้งนี้ การพิพากษาดังกล่าวได้สร้างความพึงพอใจให้กับองค์กรศาสนา ผู้นำชาวมุสลิมและชาวคริสต์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้คนกลุ่มนี้ได้ออกมาต่อต้านพฤติกรรมรักร่วมเพศอย่างต่อเนื่อง โดยกล่าวว่าการรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เชื้อเอดส์แพร่ระบาดใน ขณะที่ทางด้านองค์การนิรโทษกรรมสากล ได้ตำหนิศาลสูงสุดของอินเดียว่า การพิพากษาเช่นนี้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ทำลายความเท่าเทียมและศักดิ์ศรีของพลเมือง
อย่างไรก็ตาม ในสังคมอินเดียพฤติกรรมรักร่วมเพศถือเป็นสิ่งต้องห้าม และเป็นที่รังเกียจอย่างมาก เพราะถูกมองว่าเป็นพวกมีอาการป่วยทางจิต โดยคาดว่าหลังจากนี้ กลุ่มคนรักร่วมเพศจะออกมาประท้วงเรียกร้องสิทธิดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก
Source: http://news.sanook.com/
(12 ธ.ค.) สำนักข่าว ต่างประเทศรายงาน ว่า ศาลสูงสุดอินเดียประกาศว่าการมีเซ็กส์ระหว่างเพศเดียวกัน ถือเป็นความผิดทางอาญา โทษสูงสุดถึง 10 ปีทำให้ชาวรักร่วมเพศ ต่างรวมตัวต่อต้านคำพิพากษาดังกล่าว เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
โดยรายงานระบุว่า หลังจากที่คณะผู้พิพากษาสูงสุดของอินเดีย เคยพิพากษาเมื่อปี 2009 ว่า มาตรา 377 ของประมวลกฎหมายอาญาที่ว่าด้วยการห้ามกลุ่มรักร่วมเพศไม่ให้มีเพศสัมพันธ์กันนั้น เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล สร้างความดีใจให้ชาวสีม่วง ซึ่งได้ออกมารณรงค์ให้สังคมภารตะหยุดกีดกันคนรักร่วมเพศ แต่แล้วศาลก็กลับมาประกาศใช้กฎหมายมาตรา 377 อีกครั้ง โดยระบุชัดว่าพฤติกรรมรักร่วมเพศเป็นความผิดทางอาญา ผู้ที่กระทำผิดจะได้รับโทษสูงสุดถึง 10 ปี
ทั้งนี้ การพิพากษาดังกล่าวได้สร้างความพึงพอใจให้กับองค์กรศาสนา ผู้นำชาวมุสลิมและชาวคริสต์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้คนกลุ่มนี้ได้ออกมาต่อต้านพฤติกรรมรักร่วมเพศอย่างต่อเนื่อง โดยกล่าวว่าการรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เชื้อเอดส์แพร่ระบาดใน ขณะที่ทางด้านองค์การนิรโทษกรรมสากล ได้ตำหนิศาลสูงสุดของอินเดียว่า การพิพากษาเช่นนี้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ทำลายความเท่าเทียมและศักดิ์ศรีของพลเมือง
อย่างไรก็ตาม ในสังคมอินเดียพฤติกรรมรักร่วมเพศถือเป็นสิ่งต้องห้าม และเป็นที่รังเกียจอย่างมาก เพราะถูกมองว่าเป็นพวกมีอาการป่วยทางจิต โดยคาดว่าหลังจากนี้ กลุ่มคนรักร่วมเพศจะออกมาประท้วงเรียกร้องสิทธิดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก
Source: http://news.sanook.com/
No comments:
Post a Comment